ซื้อคอนโดมา 2 ปี ถ้าเก็บค่าเช่า 22 ปี จะเริ่มกำไร กับ ถ้าขายตอนนี้ได้กำไร 7 แสน มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ไหมครับ

** แก้ไขข้อมูลเล็กน้อยครับ คือ ลายมือที่ผมจดค่าภาษีธุรกิจเฉพาะในสมุดมันหวัดครับ แล้วผมก็อ่านผ่านๆ ตัวเลขผิดนิดหน่อยครับ ขออภัย

ที่บ้านซื้อคอนโดต่างจังหวัดไว้ด้วยเงินเย็น ตอนแรกจุดประสงค์เพื่อเอาไว้พักผ่อนเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด ไม่ต้องไปแย่งกับใคร

2555 : จองคอนโด จองตั้งแต่โครงการยังไม่เริ่มลงเสาเข็ม ราคาที่โครงการประกาศขาย ณ ตอนนั้น คือ 4 ล้านบาท
ระหว่าง 2555-2557 ทยอยจ่ายมัดจำรวมแล้วประมาณ 5 แสนบาท
2559 : โครงการสร้างเสร็จ (โครงการสร้างเสร็จช้าไป 2 ปี) พอคอนโดเสร็จก็โอนเงินงวดสุดท้าย 3 ล้านห้าแสนบาท (รวมเป็น 4 ล้านบาท)
2561 : โครงการยังขายห้องไม่หมด ยังมีห้องที่ขายไม่ได้อยู่เล็กน้อย ซึ่งราคาขายของโครงการกลายเป็น 5 ล้านบาท (ห้องชนิดเดียวกันเป๊ะ ถามเซล เซลบอกว่าราคาขายคอนโดขึ้นทุกปี เนื่องจาก เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นทุกปี ค่าวัสดุแพงขึ้น ฯลฯ และนี่ก็ผ่านมาตั้ง 7 ปีแล้วราคามันเลยเพิ่มแบบเห็นชัด)

แต่พอซื้อเสร็จพบว่ามันไม่เวิร์คครับ Facepalm
- ถ้าไปที่เดิม (จังหวัดเดิม) มันจำเจ ทำให้ไม่ค่อยได้ไปอยู่
- หรือ ถ้าต้องไปอยู่ (ช่วงไปเที่ยวพักผ่อน) ก็เอาเงิน แค่หลักร้อย หรือพันต้นๆ ไปจ่ายให้รีสอร์ท หรือโรงแรม ดีกว่า อีกทั้งยังได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วย
- ถ้าไปเที่ยวพักผ่อน ที่บ้านผมไม่ได้ไปช่วงเทศกาลอยู่แล้ว ไปวันธรรมดา ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องที่พักเต็ม (ไม่ต้องไปแย่งที่พักกับใคร)
- ไม่มีคนดูแลทำความสะอาด ทำให้เกิดปัญหาฝุ่น (จริงๆ มีแม่บ้านดูแลให้ แต่ต้องฝากกุญแจไว้ ซึ่งแม่บ้านก็ต้องไปทำความสะอาดตอนที่ไม่มีใครอยู่ก็กลัวของในห้องหาย)
- เงินจม

ดูแล้วไม่เกิดประโยชน์ จึงเปลี่ยนใจหาวิธีเอามาทำกำไร แต่ยังไม่แน่ใจแนวทางซักเท่าไหร่ครับ

แบบ A
ถ้าขายคอนโดตอนนี้ในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่โครงการขายเล็กน้อย เช่น ขาย 4 ล้านเก้าแสนบาท ตอนขายหักลบกับค่าธุรกรรมต่างๆ เช่น ค่าภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ จะทำให้กำไรประมาณ 7 แสนบาท 6 แสนห้าหมื่นบาท (ไปถามกรมที่ดินมาแล้ว)

แบบ B
คล้ายๆ แบบ A ครับ แต่ต่างตรงที่ จะย้ายเจ้าบ้านเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้าน แล้วรอ 1 ปี จะทำให้ได้กำไรเป็น 8 แสนบาท (ไม่โดนค่าภาษีธุรกิจ 1 แสนห้าหมื่นบาท)
ตอนแรกไม่ได้กะขาย เลยไม่ได้ย้ายชื่อเข้าไปในทะเบียนบ้านคอนโดตั้งแต่แรกโอน (เสียดายเวลาที่ผ่านไป รู้งี้ย้ายเข้าทะเบียนบ้านคอนโดตั้งแต่แรกดีกว่าครับ)

แบบ C
คล้ายๆ แบบ A กับ B ครับ แต่ลดราคาขายลงไปอีกนิดหน่อย เพื่อให้ขายง่ายขึ้น เช่น ลดเหลือสี่ล้านแปดแสนบาท

แบบ D
ปล่อยเช่า (หาเองทางอินเทอร์เนท หรือผ่านนิติฯ) ถ้าหาคนเช่าได้ แล้วคิดค่าเช่าเดือนละ 15,000 จะใช้เวลา 22 ปี ถึงจะเริ่มกำไร
(ยังไม่รวมความเสี่ยงที่หาผู้เช่าไม่ได้ ค่านายหน้าจ่ายให้นิติฯ ค่าเสื่อม ค่าซ่อมบำรุง คู่แข่ง)

รบกวนปรึกษาครับ
1.  เลือกทางเลือกแบบไหนดีครับ หรือมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ไหมครับ
2.  ถ้าเลือกตัวเลือก A เพื่อเอากำไรที่ 7 แสนบาท 6 แสนห้าหมื่นบาท ควรเอามาใช้กี่ % และเก็บไว้ลงทุนต่อยอดกี่ % ครับ // ขออภัยในตัวเลขครับผิดไปห้าหมื่นบาท
3.  (จากข้อ 2) เรื่องกำไร ควรเริ่มนับในปีไหนถึงจะถูกครับ 2555 (ปีที่เริ่มทยอยจ่ายมัดจำ) หรือ ควรคิดปี 2559 (ปีที่จ่ายเงินก้อนใหญ่) ครับ
4.  (จากข้อ 2 และ 3) ถ้าเอากำไร 7 แสนบาท 6 แสนห้าหมื่นบาท จากการขายคอนโด แล้วคำนวณจากปี 2559 คือ 2 ปี จะกำไรมากกว่า เอาเงิน 4 ล้านแปด ฝากธนาคาร 2 ปีไหมครับ


ปล... ราคาโดยประมาณ + ปัดตัวเลขให้เข้าใจง่ายครับ

ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่